มะเร็งเต้านมในผู้ชาย

    แม้มะเร็งเต้านมจะพบในผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แต่เราพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในผู้ชายอย่างต่อเนื่อง โดยมีอุบัติการณ์ประมาณ 1% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด และเกือบทั้งหมดมักได้รับการวินิจฉัยช้า เนื่องจากผู้ชายส่วนใหญ่ไม่คาดคิดว่าตนเองจะเป็นโรคนี้ ทำให้อาการเริ่มต้นถูกมองข้าม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรม
 
  หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้ชายคือการกลายพันธุ์ของยีน 𝗕𝗥𝗖𝗔𝟭 และ 𝗕𝗥𝗖𝗔𝟮โดยเฉพาะ 𝗕𝗥𝗖𝗔𝟮 ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมในผู้ชายได้หลายเท่า ดังนั้นการซักประวัติครอบครัวและการประเมินความเสี่ยงเชิงพันธุกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยผู้ที่มีญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดรุนแรง ควรได้รับการพิจารณาส่งตรวจยีนโดยเฉพาะในช่วงอายุยังน้อย เพื่อวางแผนการติดตามในระยะยาวทั้งชายและหญิง
 
อาการที่ควรระวังในผู้ชายหากพบว่ามีอาการเหล่านี้
– ก้อนแข็งบริเวณเต้านมหรือหลังหัวนม
– หัวนมบอดหรือมีการบุ๋มผิดปกติ
– มีน้ำซึมออกจากหัวนม
– เต้านมหรือหัวนมมีการบวมแดงที่ไม่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ
     และเนื่องจากผู้ชายมีโครงสร้างเนื้อเต้านมที่น้อย หากเป็นมะเร็งจะทำให้มะเร็งลุกลามสู่ผิวหนังหรือต่อมน้ำเหลืองได้ง่ายกว่า ความเข้าใจว่า “ผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้”, การสังเกตุอาการและการทราบประวัติครอบครัวเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดรุนแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
 
   ในด้านการรักษามะเร็งเต้านมในผู้ชายมีแนวทางโดยรวมคล้ายกับมะเร็งเต้านมในผู้หญิง ได้แก่ การตรวจแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวนด์ การตรวจชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันชนิดของมะเร็ง รวมถึงการรักษาด้วยการผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีบำบัด และการให้ยาต้านฮอร์โมน ทั้งนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ตอบสนองต่อยาต้านฮอร์โมนได้ดี เนื่องจากมะเร็งมักเป็นชนิดที่มีตัวรับฮอร์โมน (ER/PR) เป็นบวก การรักษาเชิงมุ่งเป้าและยาภูมิคุ้มกันมีบทบาทในผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะผู้ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน BRCA ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จาก PARP inhibitors
Post Views: 41
Language »