รายงานการรักษามะเร็งโพรงหลังจมูกด้วย nivolumab โอกาสรอดชีวิต 97 %

    มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal Carcinoma: NPC) เป็นส่วนหนึ่งของมะเร็งศีรษะและลำคอ พบได้บ่อยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์เมื่อโรคอยู่ในระยะลุกลาม เพราะมะเร็งหลังโพรงจมูกมักไม่พบอาการใดในระยะเริ่มแรก และไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองมาตรฐาน การรักษาที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน ได้แก่ การฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัด (concurrent chemoradiotherapy: CCRT) โดยเฉพาะยาเคมีบำบัดกลุ่ม  platinum อย่าง cisplatin ซึ่งแม้จะมีประสิทธิภาพแต่ยังพบอัตราการกลับเป็นซ้ำในกลุ่มความเสี่ยงสูง (T4N1M0 หรือ T1–4N2–3M0)

    ความเป็นมาของการศึกษาชื่อ PLATINUM ซึ่งเป็นการศึกษาที่ได้ผลน่าตื่นเต้นมาก เพิ่งตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 2 งานวิจัยใช้ยาภูมิคุ้มกันบำบัด nivolumab นำก่อนให้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีแบบ intensity-modulated radiotherapy (IMRT) ขนาด 70 Gy/33 fractions งานวิจัยทำในผู้ป่วยกลุ่มความเสี่ยงสูงทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้คือ

  • การไม่พบความล้มเหลวในการรรักษา Failure-Free Survival (FFS) 3 ปี: 88.5% (มาตรฐานเดิม 70-75%)
  • อัตราการรอดชีวิต Overall Survival (OS) 3 ปี: 97.9% (มาตรฐานเดิม 85-90%)
  • อัตราการเกิดผลข้างเคียงระดับ 3–4: 40.2%
  • ไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากผลข้างเคียงของการรักษา
     จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราการรอดชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ลดความล้มเหลวในการรักษาลงอย่างมาก ซึ่งเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วย และมีการผลักดันให้เกิดการวิจัยในระยะที่ 3 ที่จะพัฒนาเป็นการรักษามาตรฐานได้ต่อไป
    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการคัดกรองที่สามารถคัดกรองมะเร็ง 10 ชนิดได้พร้อมกัน (SPOT_MAS10) ซึ่งรวมถึงมะเร็งศีรษะและลำคอ สามารถตรวจคัดกรองพบได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ไม่ต้องรอจนมีอาการแล้วจึงเข้ารับการรักษา ซึ่งอาจส่งผลให้การรักษาซับซ้อนขึ้น ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
 
Post Views: 132
Language »