ข่าวดีนักวิ่ง เรื่องจริงผ่านงานวิจัย : “วิ่งหนีมะเร็ง”

งานวิจัยหนึ่งที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายในยามว่างซึ่งศึกษาในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1.44 ล้านคน และในจำนวนนี้มีผู้ป่วยมะเร็งเป็นจำนวนถึง 186,932 คน ได้ข้อสรุปว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิคในระดับปานกลาง เช่น การวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือการเดินเร็ว สัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็งที่ลดลงถึง 13 ชนิด ตัวอย่างเช่น มะเร็งปอด ลำไส้ ตับ ไต เต้านม

   โดยการศึกษาของ Holmes et al., JAMA 2005 ที่ศึกษาในบุคลากรการแพทย์ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมจำนวนประมาณ 3,000 คน พบว่าผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมระยะ 1,2,3 ที่ออกกำลังกายด้วยการจ๊อกกิ้ง ด้วยความเร็วประมาณ 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา ≥ 3 ชม./สัปดาห์ มีความเสี่ยงเสียชีวิตลดลง 50%

โดยกลไกที่อธิบายว่าทำไมการวิ่งจึงช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง 
1. การออกกำลังกายลดความต้านทานต่ออินซูลิน และลดการอักเสบเรื้อรัง
2. เพิ่มการทำงานของ NK cells และ T-cells ช่วยกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติได้ดีขึ้น
3. ลดฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นผลดีในมะเร็งชนิดที่ตอบสนองต่อฮอร์โมน
4. ลดเนื้อเยื่อไขมันซึ่งเป็นตัวการในการสร้างสารอักเสบเรื้อรัง