มะเร็งอันดับ 1 ในเพศชาย

    ในเพศชายและเพศหญิง มีสถิติการพบโรคมะเร็งที่แตกต่างกัน ทั้งนี้นอกเหนือจากความแตกต่างในด้านร่างกายและฮอร์โมนแล้ว ยังมีความแตกต่างกันในระดับยีนและโครโมโซม ทำให้การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมหลายชนิดแตกต่างกัน และเมื่อพิจารณาร่วมกับ lifestyle หรือวิถีการใช้ชีวิตเช่น การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทำให้เพศชาย มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าในเพศหญิง โดยเฉพาะมะเร็งที่เกิดจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
   โดยพบว่ามะเร็งอันดับ 1 ในเพศชายได้แก่มะเร็งตับและท่อน้ำดี ซึ่งพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 3 เท่า พบมากในช่วงอายุที่กว้าง นั่นคือพบผู้ป่วยมะเร็งตับได้มากในเพศชายตั้งแต่อายุ 30 – 70 ปี
สาเหตุของมะเร็งตับและท่อน้ำดี 🤔
1. เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ซี
2. ไขมันพอกตับเป็นระยะเวลานานจนเกิดตับอักเสบ
3. พยาธิใบไม้ในตับ
4. การดื่มแอลกอฮอล์
5. ได้รับเชื้อรา Aflatoxin จากอาหารได้แก่ ธัญพืช ถั่ว พริกแห้ง 
6. การใช้ยาบางชนิดต่อเนื่อง
7. พันธุกรรมมะเร็งตับ 
   ในการคัดกรองมะเร็งตับในผู้ชาย ควรทำตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ส่วนในเพศหญิงแนะนำการตรวจตั้งแต่อายุ 50 ปี โดยควรรับการตรวจ AFP (alfa-fetoprotein) และ Ultrasound ตับ หากไม่พบความผิดปกติ ให้ตรวจซ้ำทุกปี หากพบความผิดปกติให้วินิจฉัยเพิ่มเติม โดยตรวจจาก CT scan หรือ MRI
การป้องกันมะเร็งตับ หรือลดโอกาสการเป็นมะเร็งตับ🩺
1. รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บางรายอาจมีความจำเป็นต้องรับการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันเมื่อเวลาผ่านไปเกิน 10 ปี 
2. ไม่ใช้เข็มฉีดยา หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสเลือด/ สารคัดหลั่ง ร่วมกับผู้อื่น การสักผิวหนังควรมั่นใจว่าใช้อุปกรณ์ใหม่
3. การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ
4. ควบคุมระดับไขมันในเลือด การรับประทานอาหารไขมันน้อย รับประทานอาหารหลากหลาย
5. รับประทานอาหารสุก
6. งดดื่มแอลกอฮอล์ 
7. ตรวจดูอาหารประเภท ข้าว ธัญพืช ถั่ว พริกแห้งก่อนบริโภค ควรอยู่ในสภาพแห้ง ร่วน ไม่ชื้น ไม่ขึ้นรา
8. การใช้ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกร และไม่ควรรับประทานยาสมุนไพรต่อเนื่อง

บทความที่น่าสนใจ

Post Views: 84
Language »